GMAT Quant sample #6

สิ่งที่ต้องเรียนรู้จากข้อนี้ : ข้อยากมากๆๆ จะจัดการอย่างไร ?

สวัสดีชาว GMAT
วันนี้ พี่เอ๋ จะประเดิมต้นปี ด้วย GEOMETRY โจทย์โครตยากแบบพีคๆเลย ว่า
ในชีวิตการสอบของน้องจริงๆ ระหว่างกำลังทำสบายๆ
แล้วเจอโจทย์โครตยาก เข้าให้ ผ่าง !!! จะทำตัวอย่างไร หนี หรือ สู้
แล้วเมื่อไรจะหนี เมื่อไรถึงสู้
..
ถ้าจะหนี
มีกี่วิธี ที่จะหนี … หนีแบบไหน ที่ยังมีสิทธิรอด มาดตามดูในโพสต์ย่อยครับ …
….
ถ้าสู้ สู้ได้กี่วิธี …
…
ลองตามดูในโพสต์ย่อยๆ ครับ พี่เอ๋ จะทำค่อยๆ
ใส่แนวคิด ไปให้ดูในแต่ละขั้นครับ
…
จะลองทำดูก่อนก็ได้ครับ
…
หรือจะดูวิธีเฉลย ของ GMATCLUB ก็ตามลิงค์นี่ไป
น้องจะเห็นว่า detail คือ ข้อนี้ยากระดับ 95 percentiles
ใช้เวลาระดับ 3 นาทีขึ้นไป โดยเฉลี่ยในการทำ

STEP1
หนีแบบ หนีจริงๆ หมายถึงว่า ถ้าเราเจอข้อนี้ แบบมองปราดเฮ๊ย ยากแน่ นานแน่ เข้าไปทำไม่น่ารอด เราต้องหนีแน่แล้ว และเลือกหนี แบบไม่มีมาด..เอ้าหนีเว๊ย
ทำแบบนี้
ตั้งสติว่า เราเจอ Zone ไหน
1. ถ้าใน Zone ต้น 7-10 ข้อแรก การเจอยากขนาดนี้ แปลว่า เราต้องทำดี ทำถูกมาต่อเนื่อง ถึงได้เจอข้อระดับยาก แปลว่าคะแนนเราสูงมาก ถึงได้บันดาลให้
ฟ้ามาโปรดส่งยากระดับนี้มา
..
ค่อยๆมองว่า มีทริกที่เรียนมาคิดออกไหม ถ้าไม่มีทริกในการสู้ให้ทำเร็วได้
หรือมืดแปดด้าน อย่าได้ทำแบบ อ้ะลองมั่วๆดู การทำข้อนี้อาจติดวังวนที่ออกไม่ได้ รีบกดมั่ว แล้วลำดับถัดไป คือ ทำข้อที่ติดกับมันถัดไปให้ถูกให้ได้
จะลดความเสียหายได้จากข้อที่ผิด
.
หรือ ในกรณีที่ 2 ถ้ามาใน Zone กลาง หลังข้อ 10 ไปแล้ว
จำไว้ว่า ยิ่งโซนกลาง โซนปลาย เราจะพบว่าน้ำหนักของคะแนนลดลง
หมายถึง ทำถูกไป คะแนนก็ไม่เพิ่มมาก (นึกถึง GPAX เข้าไว้)
เรายิ่งต้องเข้าใจว่า ไม่แลกคะแนนน้อยด้วยเวลามาก
.
ดังนั้นถ้าโซนนี้ จะตัดสินใจหนีได้ไวขึ้น
..
กับอีกอย่างนึงคือ เราก็รู้สึกตัวว่าทำไม่ได้ดีมาก ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ข้อยากมาก
จู่ๆข้อนี้โผล่มา ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป้นข้อสอบ testrun ที่ใช้ทดสอบระบบ
ไม่มีคะแนน ทำถูกหรือผิด ไม่มีผลต่อคะแนนเรา แน่ๆ
แอบอธิษฐานเบาๆ ขอให้เป็น dummy เถิดเพี้ยง แล้วกดมั่วไป

STEP2
หนีแบบเท่ห์ๆ ซึ่งจริงๆคือการมั่วแบบ educate guess นั่นแหละ
ลองฝึกเป็น hobby ระหว่างทำจริงๆ ก็ได้ว่า ถ้าเราจะมั่วๆนะ จะมั่วข้อนี้
ซึ่งถ้าคนที่ทำโจทย์มาถึงจุดหนึ่ง
มันจะสะสมประสบการณ์ในการมั่วไว้ได้มากมายจน ความสามารถในการมั่ว
สูงสุดเข้าใกล้การทำจริงๆ

1 ในการมั่วพื้นฐานคือเริ่มจากตัดข้อที่ไม่เหมือนชาวบ้านออกไป

2. ให้เดาจากข้อที่ มีความ ซ้ำ (repeat pattern) และ มีพวกมากกว่าคนอื่น
(majority)
มาดูจากภาพประกอบกันครับ

3. ข้อสอบที่คำตอบเป็นตัวแปร/จัดรูป/algebra ใน choice สถิติในฐานข้อมูลของพี่เอ๋
คือ จะตอบ C D E เกือบทั้งหมด ในขณะที่ข้อสอบแบบที่ ตอบเป็นตัวเลขของค่าตำตอบตรงๆ
ในโจทย์พวก arithmatics ต่างๆ จะชอบตอบ A B มากกว่า
(ไม่ได้จริง 100%นะครับ)

จริงๆ ยังมีหลักการมั่วแบบอื่นๆอีกมากครับ ขอไม่ยกในที่นี้

STEP 3
ทำแบบ ใช้เทคนิก  (GEOMETRY เทคนิกมีอีกเยอะมากจะเล่าให้ฟังเพิ่มในคลาสนะครับ)
อันนี้ หลายๆการทำที่ง่ายต้องอาศัยแรงบันดาลใจที่โจทย์
บอกเราด้วย การอ่านดีๆ จะมองเห็นครับ

1. อันที่ทำให้พี่คิดว่าเป็น Key Word ในการเฉลยของข้อนี้ คือคำว่า
Point A,B,C,D are colinear

2. key Word ที่สองที่เราจะชนะข้อนี้ คือ
ในเรื่องสามเหลี่ยมมุมฉากแบบติด root พีเอ๋ จะบอกน้องบ่อยๆว่า
ให้ดูแแค่ ถ้ามี Square root 2 มานะ ให้มองเลย 45-90-45 มาแน่ และจำค่า fix ของด้านไว้
และถ้าเห็น Square root 3 มา ก็ต้องเจอรูป 30-60-90แน่ๆ ก็ใช้ค่า fix นั้นจำไปใช้
เพราะอัตราส่วนเป็นค่าเดียว ค่าเดิมๆ นั้นเสมอ ถ้าไม่ใช่ก็แค่ scale up ขึ้นไป

STEP 4
คือทำแบบโกงๆ กะๆ

อย่าลืมว่า GMAT ไม่มีกติกาว่าต้องแก้ด้วย math หรือ ต้องตั้งสมการ ต้องจัดรูปนะ อะไรแบบนี้
ใครฉลาดกว่า กึ๋นเจ๋งกว่ารับรางวัลไปเลยนะ
คือ คุณทำอะไรมาก็ได้ แล้วมันตอบได้ คือจบ
..
เรามาเล่นแบบ หมัดตรงดูนะครับ คือคิดมันซื่อๆเลยว่าเท่าไร
อันแรก อย่าไปกลัวค่า Square Root หาค่าจริงเพื่อการ estimation
..
เริ่มจากเราต้องทราบว่า Sqrt2 = 1.4 โดยประมาณ
พี่เอ๋ ใส่เลขลงไปทุกข้อ
..
ต่อมาเราดูรูปภาพของเราก่อนนะครับ
เราอาจจะถูกสอนว่า รูปภาพเชื่อไม่ได้ เสกลอาจเพี้ยน รูปอาจไม่ขนาน
ฉากอาจไม่ฉาก อะไรก็แล้วแต่ที่พี่เอ๋สอนไว้

แต่ไม่ใช่ข้อนี้
่รูปนี้ Scale โกหกไม่ได้ ทำไมเหรอ ก็ถ้าวาดรูปใหญ่ แล้ววาดรูปกลมเล็กแทรกไปข้างล่าง

r มันต้องเล็กกว่า R ใช่มั๊ยหล่ะ
เออ
R/r มันต้องมากกว่า 1 ก่อน เบื้องต้น
ไอ้ข้อ A กับ C กลับบ้านไปก่อนเลย

เหลือ B ประมาณ 5 เท่า D ประมาณ 6 เท่า E ประมาณ 2 เท่านะ

ให้แมวมาดูแล้วตอบ แมวมันยังดูออกเลยว่า น่าจะ 6 เท่า แน่ๆ เฟ้ยยยย

ตอบ D ได้อย่างชัดๆ