ไม่ได้โพสต์โจทย์มานานพอสมควร พี่เอ๋ เคยตั้งใจว่าจะโพสต์โจทย์ สักอาทิตย์ละ 1-2 ข้อ
น่าจะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า ทั้งน้องที่เรียนกับพี่ หรือ ไม่ได้เรียนก็ตาม ถ้าขยันมาติดตาม
คอยอัพเดต ทำความเข้าใจ จับไอเดีย ที่พี่สอดแทรกไว้เสมอๆ ก็จะได้อะไร ติดไม้ติดมือ กลับไปเช่นกันครับ
–
โจทย์ข้อนี้ ที่มาคือ GMATPREP หยิบมาด้วยความสนใจว่า โอววว ความยากระดับ 95 นี่ ต้องเทพใช่มั๊ยถึงคิดออก
มีอะไรน่าสนใจ และ จะมองหาวิธีคิดแปลกๆ ง่ายกว่า เบากว่า เพื่อช่วยน้องๆได้ไหม ตามมาดูข้อสอบกันครับ ..
ลองดู และ จับเวลาทำ ก่อนที่จะเลื่อนลงไปดูเฉลยและแนวคิดได้ครับ
เรื่องของเรื่องคือ ข้อนี้ สมราคาความยากครับ เพราะ มองแล้วว่า ถ้าจะเลือกวิธีคิด ด้วย math สักวิธี จะตั้งสมการ จะอะไรแล้วแต่ มันตื้อ คิดไม่ออก
–
ถ้าสอบจริง เจอประมาณนี้ ทางเดียวที่คิดออก คือ หนีไป !!
(เคยบอกบ่อยๆ ว่าถ้าหนีข้อยากที่ยากจริงๆ ไม่เสียคะแนนเท่าไร ถ้าข้อไม่ยากแล้วคิดไปเองว่ายากนี่ ไม่แน่ครับ 555)
–
ทีนี้ก็จะมาบอกว่า หลายๆครั้ง เราอาจต้องเอาตัวรอดด้วยวิธี non math ซึ่งพี่เอ๋ จะบอกน้องๆ ที่เรียนกับพี่เสมอ
นะว่า อย่าไปคิดว่า non math เป็นแค่การเอาตัวรอดของคนไม่เก่งเลข มันไม่ใช่เลยครับ
** ถ้าน้องเก่งเลข แล้วใช้ non math เป็น …. น้องจะอยู่เหนือกว่า คนที่ใช้แต่ math ล้วนๆ ไป 1 ขั้น
** ถ้าน้องเสริม non math เข้าไปร่วมกับ math ซึ่งพี่เอ๋ เรียกว่า hybrid-technic มันจะเร็วกว่าคนอื่น ไป 1 ช่วงตัว
** ถ้าน้องใช้ non math จนชินแล้วพบว่า มันเป็นศิลปะ ที่ดึงมาใช้ดั่งใจ ดุจกิ่งไม้ก็แทนกระบี่ได้เหมือนในหนังจีน ซึงเป็นสิ่งที่คนออกข้อสอบได้เปิดช่องโหว่ เป็นประตูมิติ ไว้ประจำๆในข้อสอบ GMAT
เฉลย :
พี่เอ๋ ได้ลองเขียนเสนอ วิธีการคิด โดยแนวทาง Simulation / ผสม logic Max-Min ไว้
ตามแบบข้างล่างนี้ครับ
การได้คะแนน Quant ดีได้นั้น
พี่เอ๋ Quant Alchemist
เก่งแรกคือทำได้ เก่งต่อมาคือ ทำยังไงที่จะทำได้เร็ว ต่อมาอีกคือเก่งที่จะหาวิธีที่ทำได้ง่ายขึ้น เบาแรงขึ้น
เก่งที่สุดตอนจบต้องรอบคอบไม่ตายตอนจบ แค่นี้ก็รอดละ !!
อ้อ สุดท้ายสิ่งสำคัญในวันสอบ มากที่สุดคือ แผน / การแบ่งเวลา /และการตัดสินใจเฉพาะหน้า
สู้ๆครับ น้องๆ ทุกคน